เครื่องชงกาแฟ (Espresso Machine) แบรนด์ไอมิกซ์ (imix) และ Delisio เดลิซิโอ้ ราคาย่อมเยาว์ ที่ท่านสามารถจับต้องได้สำหรับท่านที่กำลังมองหาเครื่องชงกาแฟ สำหรับเปิดร้านกาแฟ หรือ ท่านที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องชงกาแฟใหม่ หรือ หาชื้อไว้ใช้ตามบ้าน และออฟฟิศ
ทางร้านเราก็มีบริการให้คำแนะนำ เรามีเครื่องชงกาแฟ เอสเปรสโซ่ หลากหลายสไตล์ เครื่องเอสเปรสโซ สไตล์แคปซูล ที่เรามีไว้สำหรับท่านที่ต้องการประหยัดค่ากาแฟ สำหรับมีไว้ตั้งชงที่เคาเตอร์กาแฟที่บ้านของท่าน
แนะนำสำหรับเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟให้เหมาะกับร้านกาแฟ และความต้องการของท่าน มีสิ่งที่ต้องเลือกพิจารณา คืออะไรบ้าง
1. จำนวนหัวชง (Brew Group)
2. ขนาดเครื่องชงกาแฟ
3. หม้อต้มน้ำ
4. ระบบการควบคุมแรงดัน
5. ระบบการทำความร้อนของเครื่องชงกาแฟ
ระบบทำความร้อนของเครื่องชงกาแฟ ถูกออกแบบให้สามารถผลิตน้ำร้อนเพื่อใช้ในการสกัดกาแฟ และผลิตไอน้ำเพื่อใช้ทำโฟมนม ซึ่งในปัจจุบันเครื่องชงกาแฟ ที่ใช้ตามร้านกาแฟ มีระบบการทำความร้อน 3 ระบบ คือ
1. ระบบแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchang)
2. ระบบ 2 หม้อต้ม (Dual Boiler or Double Boiler)
3. ระบบหลายหม้อต้ม (Multi Boiler)
แบ่งการทำงานของหม้อต้ม เครื่องชงกาแฟ ออกเป็น 2 แบบ คือ
COFFEE BOILER : หม้อต้มน้ำที่ทำหน้าที่ทำความร้อนสำหรับใช้สกัดกาแฟ
STEAM BOILER : หม้อต้มน้ำที่ทำความร้อนสำหรับใช้ทำโฟมนม และน้ำร้อน
มารู้จักกับ ระบบทำความร้อนของเครื่องชงกาแฟ วาแต่ล่ะระบบทำงานกันอย่างไรบ้าง
1. ระบบแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchang)
เป็นระบบการทำความร้อนที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย มีราคาที่ไม่สูงถ้าเทียบกับเครื่องระบบอื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถสกัดกาแฟ และทำโฟมนมได้พร้อมๆกัน มาดูข้างในเครื่องกันค่ะ
ภายในเครื่องชงกาแฟจะมีหม้อต้มน้ำ1 ใบ ที่บรรจุน้ำประมาณครึ่งหนึ่ง ถูกออกแบบให้ทำความร้อนที่อุณหภูมิสูงประมาณ 117 - 122 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดเป็นแรงดันไอน้ำ เก็บในพื้นที่ส่วนที่เหลือของหม้อต้ม (Boiler) เพื่อใช้ในการทำโฟมนม หรือ Boiler นี้คือ Steam Boiler นั่นเอง
ส่วนน้ำที่ใช้สำหรับสกัดกาแฟ ไม่ได้ถูกส่งมาจากใน Steam Boiler แต่น้ำจะถูกส่งมาจากปั๊มของเครื่อง (ที่เป็นน้ำอุณหภูมิห้อง) ไหลผ่านท่อ Heat Exchanger ที่อยู่ภายใน Steam Boiler ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchange) น้ำจากปั๊มที่ไหลผ่านท่อ Heat Exchange จะมีความร้อนที่สูงขึ้น จนได้ความร้อนที่เหมาะสมสำหรับสกัดกาแฟนั่นเอง
ข้อดี
1. ด้วยราคาไม่สูงถ้าเทียบกับเครื่องชงระบบอื่น
2. หากใช้น้ำร้อน และไอน้ำไม่มาก เครื่องชงจะทำความร้อนได้ดีเทียบเท่าการทำความร้อนรูปแบบอื่น ๆ
ข้อเสีย
1. หากใช้น้ำร้อน และไอน้ำมาก จะทำให้น้ำที่ใช้ในการสกัดกาแฟมีความร้อนลดลงด้วย
2. ไม่สามารถตั้งค่าความร้อนของน้ำที่ใช้ในการสกัดกาแฟได้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. ระบบ 2 หม้อต้ม (Dual Boiler)
เป็นเครื่องชงกาแฟที่มีการแยกระหว่าง Coffee Boiler และ Steam Boiler และสามารถตั้งค่าความร้อนให้แตกต่างกันได้
ซึ่ง Coffee Boiler สำหรับชงกาแฟ จะอยู่ด้านหน้า (โดยส่วนใหญ่ตั้งอุณหภูมิอยู่ที่ 88 – 95 องซาเซลเซียส) และ Steam Boiler สำหรับทำน้ำร้อน และทำโฟมนม (ส่วนใหญ่ตั้งอุณหภูมิอยู่ที่ 117 - 122 องศาเซลเซียส)
การทำความร้อนของหม้อต้มน้ำแยกกันอิสระ ทำให้อุณหภูมิของน้ำร้อนจะมีความเสถียร และคงที่มาก แม้จะใช้น้ำร้อนหรือทำโฟมนมอย่างต่อเนื่องก็ตาม เครื่องชงกาแฟระบบนี้จึงเหมาะกับร้านกาแฟที่ต้องการความร้อนในการสกัดกาแฟที่เสถียร และมีการใช้น้ำร้อน หรือการทำโฟมนมอย่างต่อเนื่อง
หากเครื่องชงกาแฟแบบ 2 หัวชงขึ้นไป จะใช้น้ำจาก Coffee Boiler เดียวกัน ดังนั้นทุกหัวชงจะใช้ความร้อนที่เท่ากันในการสกัดกาแฟ
ข้อดี
1. เครื่องชงมีการทำความร้อนที่เสถียรมาก สามารถใช้ต่อเนื่องได้ดี
2. สามารถตั้งค่าความร้อนของน้ำที่ใช้ในการสกัดกาแฟได้
ข้อเสีย
1. เครื่องชงมีราคาสูง
2. ถ้าเครื่องชงมีมากกว่า 1 หัวชง จะไม่สามารถตั้งค่าความร้อนให้แต่ละหัวชงให้แตกต่างกันได้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. ระบบ หลายหม้อต้ม (Multi Boiler)
เป็นเครื่องชงกาแฟมีการแยก Coffee Boiler ของแต่ละหัวชงออกจากกัน ซึ่งทำให้สามารถตั้งค่าความร้อนของแต่ละหัวชงให้แตกต่างกันได้ และนอกจากนี้ยังแยก Steam Boiler ออกมาอีก 1 หม้อต้ม ถือเป็นระบบที่มีความเสถียรและยืดหยุ่นในการตั้งค่าความร้อนที่ใช้สกัดกาแฟมากที่สุด โดยการตั้งค่าความร้อนของ Coffee Boiler ให้แตกต่างกัน ทำให้สามารถสกัดกาแฟให้มีรสชาติหลากหลาย
นอกจากนี้ยังสามารถเลือก เปิด หรือ ปิด หัวกรุ๊ปที่ไม่ใช้งานได้ ทำให้สามารถประหยัดพลังงานมากขึ้นอีกด้วย
ข้อดี
1. เครื่องชงมีความร้อนที่เสถียร สามารถใช้งานพร้อมกับการใช้น้ำร้อนและทำโฟมนมที่ต่อเนื่องได้
2. สามารถตั้งค่าความร้อนของน้ำใน Coffee Boiler ให้แตกต่างกัน เพื่อการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
3. สามารถปิดการทำงานของ Coffee Boiler ที่ไม่ใช้งานได้
ข้อเสีย
1. เครื่องชงมีราคาสูงกว่าเครื่องชงระบบ Heat Exchange
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นอกจากเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ แล้วทางร้านยังมี อุปกรณ์ทำกาแฟ สไตล์ ดริป ไชฟ่อน มอคค่าพอท เฟรนส์เพรส
Pageviews | 2,248,057 view(s) |
Visitors | 1,270,945 time(s) |
Open since | Sep 12, 2018 |
Last updated | Sep 5, 2025 |